|
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์การบริหาร
จัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล เพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น
2) สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล เพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียน
โดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล
เพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด
เลย ๑ (เหมืองแบ่งวิทยาคม) และ 4) ประเมินและรับรองรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มี
ประสิทธิผล เพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น โรงเรียนองค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดเลย ๑ (เหมืองแบ่งวิทยาคม) กลุ่มเป้าหมายสำหรับการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ครูโรงเรียน
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย ๑ (เหมืองแบ่งวิทยาคม) ปฏิบัติหน้าที่ในปีการศึกษา 2566 จำนวน 36 คน
และครูโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย ๑ (เหมืองแบ่งวิทยาคม) ปฏิบัติหน้าที่ในปีการศึกษา 2567
จำนวน 35 คน ประชากรสำหรับการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนองค์การ
บริหารส่วนจังหวัดเลย ๑ (เหมืองแบ่งวิทยาคม) ที่กำลังศึกษาปีการศึกษา 2567 จำนวน 529 คน
กลุ่มตัวอย่างสำหรับการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนองค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดเลย ๑ (เหมืองแบ่งวิทยาคม) ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2567 จำนวน 217 คน โดยใช้ตาราง
เครจซี่ และมอร์แกน (Krejcie and Morgan, 1970) และใช้การสุ่มอย่างง่าย (Simple Random
Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล
2) แบบสอบถามสภาพปัจจุบันสภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นที่เกี่ยวกับการบริหารจัด
การสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล 3) คู่มือการใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล
4) แบบสอบถามความพึงพอใจของครู 5) แบบสถอบถามความพึงพอใจของนักเรียน 6) แบบประเมินและ
รับรองรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม
สำเร็จรูป เพื่อคำนวณหาค่าเฉลี่ย (
X
) ร้อยละ (%) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์การบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล
เพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น สภาพปัจจุบัน โดยรวมอยู่ในระดับมาก
ที่สุด ( = 3.43, = 0.71) และสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.66, = 0.48)
2. ผลการผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล
เพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น ตามความคิดเห็นของเชี่ยวชาญ
พบว่า มีความสอดคล้องทุกองค์ประกอบ โดยองค์ประกอบที่มีความสอดคล้องมากที่สุด ได้แก่ วัตถุประสงค์
(IOC = 1.00) ปัจจัยนำเข้า (IOC = 1.00) รองลงมา หลักการ (IOC = 0.80) กระบวนการ (IOC = 0.80)
ผลผลิตและผลลัพธ์ (IOC = 0.80) และผลป้อนกลับ (IOC = 0.80) ตามลำดับ
3. ผลการวิเคราะห์รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล เพื่อส่งเสริม
คุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
( = 4.66 , = 0.48) ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล
ผลที่ได้ดังนี้
3.1 ผลการประเมินสมรรถนะของผู้เรียน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X
S.D. = 0.48)
= 4.65,
3.2 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับ
มากที่สุด (X
= 4.66, S.D. = 0.48)
3.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษา
ที่มีประสิทธิผล โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.72, = 0.31)
3.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษา
ที่มีประสิทธิผล เพื่อส่งเสริมคุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ย
ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (X
= 4.66, S.D. = 0.49)
4. ผลการประเมินและรับรองรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิผล เพื่อส่งเสริม
คุณภาพนักเรียนโดยประยุกต์ใช้แนวคิดบันได 9 ขั้น โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย ๑
(เหมืองแบ่งวิทยาคม) โดยรวมมีระดับความเหมาะสมมากที่สุด ( = 4.80, = 0.27) |